วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ผบ.พล.ร.15 ร่วมทำการฝึกเดินทางไกลและตรวจสภาพความพร้อมรบประจำเดือน ก.ค.62


เมื่อ 30 ก.ค. 62 เวลา 0530 พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.พล.ร.15 ร่วมทำการฝึกเดินทางไกลและตรวจสภาพความพร้อมรบประจำเดือนโดยมีกิจกรรมดังนี้
✨ผบ.พล.ร.15 เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบ ของหน่วยส่วนฐาน, ร.153 และ นขต.ร.153
✨ ผบ.พล.ร.15 และ ผบ.นขต. นำหน่วยในพื้นที่ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัยเดินทางไกลประจำเดือน ระยะทาง 10 กม. เพื่อฝึกการเคลื่อนย้ายเป็นหน่วยและเสริมสร้างขีดความสามารถของกำลังพลและแสดงออกถึงความพร้อมของหน่วยเพื่อรองรับภารกิจของหน่วยเหนือ










✨ กิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์กับชุมชนรอบค่ายระหว่างเดินทางไกลโดย ผบ.พล.ร.15 ได้พบปะ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และชาวบ้าน บ.ห้วยน้ำเย็น ม.2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
✨การแข่งขันแข่งขันเดินเร่งรีบและยิงปืนทางยุทธวิธีประจำเดือน ระดับ ชป.ๆละ 12 นาย จำนวน 17 ชป. ทั้งนี้เพื่อเตรียมการสำหรับกำลังพลที่จะปฏิบัติราชการสนาม ที่จะต้องปฏิบัติงานเป็น ชป.จรยุทธ์ ตามนโยบายของ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4
✨ มอบโล่ พร้อมเงินรางวัลสำหรับหน่วยที่ ชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ1 และ อันดับ 2 ตามลำดับ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพล ที่ร่วมแข่งขันเดินเร่งและยิงปืนทางยุทธวิธี











วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

"กระโดดร่มมิตรภาพ" รบพิเศษอาเซียน


พลโท สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กองทัพบก โดยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ "กระโดดร่มมิตรภาพ" หน่วยทหารรบพิเศษกลุ่มประเทศอาเซียน ประจำปี 2562 ที่จังหวัดลพบุรี โดยมีผู้แทนทหารหน่วยรบพิเศษจากกลุ่มประเทศอาเซียน 8 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เข้าร่วมกิจกรรม


"การกระโดดร่มมิตรภาพ" ใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ บ.ล.295 ของกองทัพบกไทย จำนวน 4 เที่ยวบิน บรรทุกนักกระโดดร่ม ทั้งจากฝ่ายไทย และมิตรประเทศรวม 194 นาย จากสนามบินกองบิน 2 ฐานบินโคกกระเทียม กระโดดลง ณ สนามโดดร่มทางยุทธวิธี บ้านท่าเดื่อ ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยมี พลโท สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นผู้แทนฝ่ายไทย เมื่อจบภารกิจก็ได้แลกเปลี่ยนของที่ระลึกระหว่างกัน และมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถนักกระโดดร่มด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น อุ่นไอมิตรภาพ


วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

แม่ทัพน้อยที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย เป็นประธานเปิดโครงการ “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”กิจกรรมพลิกฟื้นคืนผืนป่า อนุรักษ์ดินและน้ำ

วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 น. พลโทสุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย เป็นประธานเปิดโครงการ “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”กิจกรรมพลิกฟื้นคืนผืนป่า อนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บ้านขุนตื่น ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหัวหน้าสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดอยแบแล, นายอำเภออมก๋อย และ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่พร้อมทั้งราษฎร บ้านขุนตื่น, บ้านพะอัน ตำบลสบโขง ให้การต้อนรับโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.”



โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”กิจกรรมพลิกฟื้นคืนผืนป่าอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นกิจกรรมที่จัดทำขึ้นจากผลสัมฤทธิ์ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงให้ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ คือให้ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรในพื้นที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงงานสานต่อจาก พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดมานับเป็น พระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้


ด้านนายวิทยา เติมต้น หัวหน้าสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดอยแบแล กล่าวว่า กิจกรรมพลิกฟื้นคืนผืนป่าอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งนี้จัดเป็นปีที่ 2 ได้รับความร่วมมือและประสานการทำงานระหว่างสถานีฯ ดอยแบแล และ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย รวมทั้งหน่วยงานร่วมที่ดำเนินการในพื้นที่ของสถานีฯ ดอยแบแล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูป่า ที่ได้คืนจากราษฎรที่ทำไร่ ตลอดจนต่อยอดการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ดินและน้ำแบบนาขั้นบันได เพิ่มพื้นที่ป่า ลดการทำไร่หมุนเวียน ทั้งนี้ ปัจจุบันราษฎรบ้านพะอัน และบ้านขุนตื่น ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย ได้มอบพื้นที่ไร่หมุนเวียนคืนผืนป่า รวมจำนวน 179 ไร่ เพื่อนำมาดำเนินการฟื้นฟูป่า รวมทั้งอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามศาสตร์พระราชา ทำให้ผืนป่ามีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นนับว่าเป็นกิจกรรมที่ดี มีคุณค่า เป็นประโยชน์ส่วนรวม และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน



การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ แม่ทัพน้อยที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย นำข้าราชการและประชาชนในพื้นที่กล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นผู้แทนราษฎร บ้านพะอัน และ บ้านขุนตื่น ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย มอบพื้นที่ไร่หมุนเวียนคืนผืนป่า จำนวน 17 ราย เนื้อที่ 179 ไร่ จัดสรรพื้นที่ทำนาขั้นบันได จำนวน 32 ไร่ ตลอดจนร่วมกับหัวหน้าส่วนปลูกต้นไม้ เพื่อฟื้นฟูป่า จำนวน 150 ไร่ ตามศาสตร์พระราชา พร้อมปลูกป่ากันแนวรอบๆ จำนวน 29 ไร่ และปลูกไม้ผล/ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ จำนวน 510 ต้น


วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รอง ผบ.ตร.นำกำลังบุกค้นบ้าน สจ.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล คดียาเสพติด หลังถูกแก๊งยาซัดทอด ขยายผลยึดทรัพย์ร่วม 50 ล้าน พบผู้ต้องหาเป็นเอเย่นต์รายใหญ่ภาคใต้ ส่งยาค้าต่างประเทศ


เมื่อ 23 ก.ค.62 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.และคณะ ได้เดินทางมายังกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 11 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส และ พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และประชุมรับฟังการบุกตรวจค้นเป้าหมายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้


โดย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. กล่าวสรุปการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 17 จุด ในการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน มูลค่ารวม 50 ล้านบาท ของ นายการียา เจะมามะ อายุ 58 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน จ.นราธิวาส ซึ่งป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 313/2562 ลงวันที่ 12 ก.ค.62 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไอซ์ หรือเมตแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการซัดทอดของ นายเปาะสา ดิง และ นายกอเซ็ง นิเกาะ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมยาไอซ์ จำนวน 459 กิโลกรัม


ภายหลังรับฟังสรุปแล้วเสร็จ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 6 ม.1 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของ นายการียา ผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับ โดยพบกับ นางเจะอาสะนอ เจะมามะ ซึ่งเป็นมารดาของผู้ต้องหา และสมาชิกในครอบครัว รวม 4 คน โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้พูดคุยสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้บอกให้มารดาของผู้ต้องหา ทำการประสานบุตรชายให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยเรื่องทั้งหมดตนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทหาร และตำรวจ สามารถขยายผลตรวจยึดได้เพิ่มเติม จำนวน 25 รายการนั้น โดยแยกเป็น บ้านจำนวน 3 หลัง รถยนต์จำนวน 3 คัน แยกเป็นรถยนต์ยี่ห้อโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ขท 4505 สงขลา 1 คัน รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน ฏธ 6120 กทม. 1 คัน รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน กข 5181 นราธิวาส 1 คัน รวมทั้งรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน ขงง 176 นราธิวาส อีก 1 คัน นอกจากนี้ยังมีสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 9 เล่ม โฉนดที่ดิน จำนวน 8 แปลง ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท




ที่มา:www.southernreports.org

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ผอ.สนภ.5 นทพ. ห่วงใยประชาชน ได้เดินทางออกสำรวจ​ และตรวจพื้นที่ที่ประสบปัญหา​ภัยแล้ง​ เพื่อแก้ปํญหาให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน


วันที่ 23 ก.ค.62 บก.ทท. (นทพ.) โดย พล.ต. ธวัช ชัย ชวนสมบูรณ์ ผอ.สนภ.5 นทพ. ได้เดินทางออกสำรวจ​ และตรวจพื้นที่ที่ประสบปัญหา​ภัยแล้ง​ กรณีเร่งด่วนเพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไขในเบื้องต้นโดยเร่งด่วนต่อไป​ ตามนโยบายของรัฐบาล​ และ​ ผบ.ทสส. ณ​ บ.ตะบอง ม.1 และ​ บ.โคกขาม ม.12​ ต.โบสถ์ อ.พิมาย จว.น.ม. ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบหลัก และประสบปัญหาภัยแล้ง อย่างรุนแรง





และได้เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการสร้างบ่อน้ำเพื่อใช้เก็บกักน้ำ่พื้นที่ อ.แก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านดีใจได้บ่อลึกมากสำหรับเก็บน้ำอยู่มาตลอดชีวิตไม่เคยได้รับ





ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถช่วยเหลือและแก้ปัญหาภัยแล้ง


วันที่ 22 ก.ค.62 พลตรีธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถช่วยเหลือและแก้ปัญหาภัยแล้ง ของสำนักงานพัฒนาภาค5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมตรวจความพร้อมของกำลังพลและเครื่องมือที่จะใช้ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ โดยในครั้งนี้จะออกไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ปักธงชัย และอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมียานพาหนะต่างๆที่ใช้ปฏิบัติงานดังนี้ รถช่วยเหลือผู้ประสบภัย 2 คัน - รถประปาสนามเคลื่อนที่ 1 คัน - รถขุดเจาะบ่อน น้ำบาดาล 3 คัน (1รถเจาะบาดาล 2รถสัมภาระเครน 3รถบรรทุกน้ำ) - รถขุดเจาะบ่อน น้ำตื้น 2 คัน - รถพัฒนาบ่อน น้ำบาดาล 2 คัน (1 รถพัฒนาบ่อ 2 รถสัมภาระเครน ) - รถขุดตัก พัฒนาแหล่งน้ำ 2 คัน – และรถบรรทุกน้ำ แจกจ่ายประชาชน 1 คัน พร้อมกันนี้ องค์การบริหารส่วนตำบล ภูหลวง และ อุดมทรัพย์ ได้สนับสนุนยานพานะปฏิบัติภารกิจ จำนวน 2 คัน



พลตรีธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน เกิดจากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลายแห่งมีปริมาณต่ำ ประกอบกับภาวะฝนทิ้งช่วงเนื่องจากอิทธิพลของ ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน ส่งผลให้อุณหภูมิ ผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรที่มีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงต้นเดือนมิถุนายน 2562 และคาดว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อนมี แนวโน้มสูงที่จะเกิดต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2562 สำหรับภัยแล้งในประทศไทย เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค ของภาคประชาชน ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดมีพื้นที่ประสบ ภัยแล้วกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ (จังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก น่าน ลพบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ชัยภูมิ สกลนคร อำนาจเจริญ สุรินทร์ เป็นต้น ) โดยเฉพาะ จังหวัดนครราชสีมา ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น ปริมาณ น้ำภายในเขื่อนกักเก็บน้ำ และตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ หลายแห่ง ของ จังหวัดนครราชสีมา ได้แห้ง ขอดเกือบหมด นับว่าประสบปัญหาภัยแล้งหนักสุดในรอบ 50 ปีที่ ท้าให้เกษตรกร ได้รับความ เดือดร้อนอย่างหนัก ขาดแคลนน้ำใช้ในการเกษตร กระทบต่อนาข้าวกว่า แสนไร่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดง ความกังวลถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่ขยายตัวกว้างจากฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้น้ำไหลลงเขื่อนต่างๆต่ำกว่า เกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 50 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจและให้การช่วยเหลือเร่งด่วนกับ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ



สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ สนองต่อคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ จัดเตรียมเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ พร้อมออกให้ความช่วยเหลือ ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยร่วมบูรณาการกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะ เร่งด่วน และระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ประชาชนที่ประสบภัยแล้งสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โทรศัพท์ 044756378 และ 0819666374 ตลอด 24 ชั่วโมง