วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2565

"ผบ.ทหารสูงสุด"ให้โอวาทแก่กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกภาคสนามภาคทะเลในการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 บนเรือหลวงอ่างทอง

วันที่ 16 มิถุนายน 2565 พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การบูรณาการร่วมระหว่าง การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 กับ การฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. ประจำปี 2565 โดยมี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. และพลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ให้การต้อนรับ ณ พื้นที่การฝึกฯ จังหวัดระยอง และ ผบ.ทหารสูงสุด ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกภาคสนามภาคทะเลในการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2565 บนเรือหลวงอ่างทอง

 "ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลผู้เข้ารับการฝึกทุกนาย ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นการฝึกการปฏิบัติการทางทะเลสาขาต่างๆ โดยบูรณาการกำลังจากหลายหน่วยงาน ทั้งส่วนราชการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หน่วยงานภาคพลเรือน ภาคประชาสังคม ซึ่งจะทำให้กำลังพลของหน่วยต่างๆ มีความรู้ความชำนาญ มีความเข้าใจในการปฏิบัติงานร่วมกัน โดยเฉพาะสถานการณ์การฝึกที่กำหนดขึ้นนั้น สอดคล้องกับปัญหาความมั่นคง สิ่งแวดล้อมทางทะเลที่เกิดขึ้นจริง และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นับว่าเป็นการเตรียมกำลังให้มีความพร้อมในการเผชิญสถานการณ์วิกฤตและภัยคุกคามในทุกรูปแบบ รวมทั้งภารกิจช่วยเหลือประชาชนโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ผมขอขอบคุณและชื่นชมผู้บังคับบัญชากำลังพลตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝึกทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทเสียสละร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ของการฝึก ซึ่งจะทำให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ ด้านความมั่นคงและช่วยเหลือประชาชน จากภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลจากการฝึกร่วมกันจะทำให้กำลังพลมีความมั่นใจในการปฏิบัติและยุทโธปกรณ์สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประชาชนมีความอุ่นใจว่าจะได้รับการบรรเทาภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์"
โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้แทนส่วนราชการ ศรชล. ได้เยี่ยมชมการฝึกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล (Oil Spill) ด้วยกำลังทางเรือ ตามแนวคิด From The Sea การค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบทางทะเล (Combat Sea SAR) โดยได้บูรณาการความร่วมมือและการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง บริษัทเอกชน หน่วยกู้ภัย และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการในทะเล และโรงพยาบาลสนามบนเรือหลวงอ่างทอง นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังเกาะเสม็ด เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเคมี ชีวภาพและรังสี ณ ท่าเรืออ่าวกลาง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์บนบก (Incident Command System :ICC) ณ สนามฟุตบอล องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง

ผบ.ทหารสูงสุด แจงลงนามแถลงวิสัยทัศน์สหรัฐฯ-ไทย แค่กรอบร่วมมือ ไม่มีเรื่องกำลังรบ

16 มิ.ย.2565 - ที่สนามฟุตบอล อบจ.ระยอง เกาะเสม็ด จ.ระยอง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงนามในกรอบแผนงานสนับสนุนแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ค.ศ. 2020 กับ ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา ผลักดันให้ไทยให้ผู้นำในความร่วมมือด้านบรรเทาสาธารณภัย และการต่อต้านการก่อการร้ายจะมีการตั้งศูนย์ในประเทศไทยหรือไม่ว่า ในส่วนตรงนั้นเป็นเรื่องกรอบความร่วมมือ ซึ่งหากจะดำเนินการในประเด็นไหนก็จะมีการพูดคุย ในแต่ละระดับต่อไป โดยในระดับกองบัญชาการกองทัพไทยกับกองกำลังข้าศึกกับกองกำลังภาคพื้นอินโดแปซิฟิก ที่เราเรียก HLD ซึ่งสืบเนื่องมาจากระดับกระทรวงกลาโหม ที่ลงนามคงามร่วมมือเรียกว่า Joint vision statement 2020 ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงนี้ก็มาถึงหน่วยปฏิบัติ ก็คือกองบัญชาการกองทัพไทย มากำหนดแนวทางร่วมกันเป็นกรอบความร่วมมือ ขอย้ำว่าเป็นข้อตกลงกรอบรวมๆ ถ้ามีความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น จะมีการประชุมอีกระดับหนึ่ง เรียกว่า Senia start talk SST ในระดับเจ้ากรมยุทธการทหาร ซึ่งก็จะมีการพูดคุยกันแต่สิ่งที่จะเน้นร่วมกันในห้วงเวลานี้คือการสนับสนุนทางการแพทย์ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อถามว่า ยืนยันไม่ใช่การเอียงข้างตามที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวหาหรือไม่ พล.อ.เฉลิมพล กล่าวยืนยันว่า ไม่มี นโยบายของกองทัพเป็นไปตามกระทรวงกลาโหมในการร่วมมือเรื่อง การฝึกและหลักสูตรการศึกษา และการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ขอย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของกำลังรบ