วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561

การปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูง

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 61 พลตรี ธัญญา เกียรติสาร รองแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจอุทยานแห่งชาติทับลาน ภายในเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 คลองน้ำมัน ตำบลโคกกระชาย อำครบุรี จังหวัดนครราชสีมา รับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

ภายหลังจากที่มีการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอุทยานแห่งชาติทับลาน กำลังพลทหารกองทัพภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่สองอำเภอของจังหวัดนครราชสีมาคือ อำครบุรี และ อำเสิงสาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเขตอุทยานแห่งชาติทับลานอยู่ในท้องที่

ซึ่งจากรายงานการปฏิบัติงานทราบว่ามีปัญหากลุ่มผู้ลักลอบตัดและทำไม้พะยูงในพื้นที่กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการลักลอบเข้ามาทำไม้พะยูงอย่างต่อเนื่อง และมีการจับกุมได้เป็นจำนวนมากในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งในห้วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบันได้แล้วเกือบ 200 คน

แต่มาในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา พบว่ารายงานข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวได้เงียบหายไป คาดการณ์ว่าจะชะลอการกระทำผิดชั่วคราวเนื่องจากความเข้มข้นในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับมีการถอนกำลังกลับไปยังภมิลำเนาในห้วงเทศกาลปีใหม่ แต่ประเมินสถานการณ์ว่าหลังจากนี้สถานการณ์อาจจะเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง

ทั้งนี้รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้นโยบายโดยการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเน้นการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในท้องที่อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีไม้พะยูงอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย ในส่วนของทางกองทัพภาคที่ 2 เอง จะได้มีการประงานร่วมร่วมกับทางกองทัพที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ในการสกัดกั้นและป้องกันกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ไม่ให้เข้าและออกจากพื้นที่ได้โดยง่าย พร้อมกับเน้นย้ำห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งหากพบว่ามีผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญาขั้นเด็ดขาดทุกราย

ที่มา .กันตพิชญ์ ททบ.5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น