วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดพิธี รับ-ส่งหน้าที่ ระหว่าง 'พล.อ.พรพิพัฒน์' และ 'พล.อ.เฉลิมพล' โดยมี 'ผบ.เหล่าทัพ' และตัวแทน สตช.เข้าร่วม


เมื่อวันที่ 30 ก.ย. เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำพิธีรับ-ส่งหน้าที่ให้กับ พล.อ.เฉลิมชัย ศรีสวัสดิ์ ผูเบัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ โดยมี 



พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมพิธี 


โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ ทั้งด้านการเตรียมการ การใช้กำลังและพัฒนาความเคารพ รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถ อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง สามารถปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ยังทำหน้าที่ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่เป็นภัยต่อประเทศชาติ ตนเชื่อมั่นว่าภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านใหม่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ จะนำพากองทัพไทย เป็นหน่วยงานหลักด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงที่มีการพัฒนาและเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในทุกมิติและทำหน้าที่ในการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลในการร่วมแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้อย่างดีเยี่ยม 


ขอมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้กับพล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านใหม่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 


 พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไปนั้น นับเป็นพรมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ซึ่งตนมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความรับผิดชอบอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอดีตผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกยุคทุกสมัยใดร่วมกันเสริมสร้างกองทัพไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติและหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนรวมทั้งประชาชนสืบเนื่องตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่จะเกษียณชีวิตราชการในครั้งนี้ ได้มุ่งมั่นทุ่มเทเสียสละเพื่อพัฒนากองบัญชาการกองทัพไทย ปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และดูแลความเป็นอยู่ของกำลังพลเป็นอย่างดียิ่ง ตนและเพื่อนข้าราชการทุกคนขอให้คำมั่นว่าจะร่วมการปฏิบัติหน้าที่เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และช่วยเหลือประชาชน ในทุกโอกาสและเสริมสร้างเกียรติภูมิของกองทัพไทยตลอดจนจะมุ่งมั่นทุ่มเท เสียสละและยึดถือพระราชพิธีนิทาน 5 และนโยบายของรัฐบาลเป็นแนวทางในการปฏิบัติใน ในวาระสำคัญนี้ตนขอรับหน้าที่และการบังคับบัญชาในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น