วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ตูน บอดี้สแลม เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เมื่อ วันที่ 4 ธันนวาคม 2560 นาย อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม"เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วย พ่อแม่ และ ก้อย รัชวิน


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและขอบคุณ ตูน ครอบครัวและทีมงาน ที่ได้เสียสละและตั้งใจทำความดีครั้งนี้ และทำให้คนไทยมีความสุข พร้อมระบุว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีใหม่นัดแรกด้วย หรือ ประยุทธ์ 5 ซึ่งที่ผ่านมาได้ติดตามมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มวิ่ง และเคยได้บริจาคเงินด้วยไปแล้วครั้งนึง เมื่อครั้งที่วิ่งที่บางสะพาน ส่วนครั้งนี้ระยะทางวิ่งไกลกว่าเดิม หากไม่มีจิตมุ่งมั่นตั้งใจ คงไม่มีใครวิ่งได้ขนาดนี้

ทั้งได้ขอบคุณตูนและทุกคน ที่ได้ประสานกับทุกฝ่ายทั้งกระทรวงสาธารณสุข และ โรงพยายาลทั้ง 11 แห่งว่าจะทำอะไรล่วงหน้าอย่างไร มีการตรวจสอบเส้นทาง คณะทำงาน ถือเป็นสิ่งที่ร่วมมือกันทำทั้งประเทศของเรา

สิ่งที่ตูนทำวันนี้ ถือว่าไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงของตัวเองตั้งแต่แรก แต่ปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนจำนวนมาก ถือว่าสอดคล้องกับแนวนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีหลายภาคส่วนช่วยกันทำงาน และ ถือได้ว่า "ตูน"เป็นพลเมืองที่มีความมุ่งมั่น ทำเพื่อประโยชน์ชาติ และ ประชาชน เพื่อการสาธารณสุข “ วันนี้ถือว่าตูน ถือว่าเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว การเป็นก็ว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาต่อไปนั้น มันยากกว่า ยากเหมือนกัน เหมือนกับการได้แชมป์มาแล้ว การรักษาแชมป์จะยากกว่า แต่จากพื้นฐานของตูน ผมมีความเชื่อมั่น ทั้งจากการเรียนหนังสือที่จบคณะนิติศาสตร์จุฬาฯ ได้รับเกียรตินิยมด้วย และมีความสามารถพิเศษในด้านดนตรี เป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ ถือเป็นคนในศตวรรษใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคน 4.0 คิดแบบ 4.0 แต่ไม่ได้หมายความว่า ตูนจะต้องไปปฎิรูป 4.0 ด้านเศรษฐกิจ มันเป็นคนละเรื่องกัน

สิ่งที่ผมชื่นใจแทนตูน คือ สามารถได้ร่วมกับคนไทยทั้ง70 ล้านคน ทำงานซึ่งเป็นไปตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของจิตอาสา ที่ทำงานเพื่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยอยู่ได้ คือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หน้าที่ของพวกเราทุกคนคือประชาชน ในส่วนที่สองรัฐบาลพยายามใช้กลไกในการขับเคลื่อนทุกอย่างของประเทศในเรื่องกลไกประชารัฐ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศมีปัญหามาก ซึ่งตูน ก็ได้เข้ามาช่วยลดปัญหาตรงนี้ โดยโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งในโครงการ รัฐบาลก็ดูแลในส่วนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่างบประมาณส่วนใหญ่ก็ต้องไปดูแล เรื่องประกันสุขภาพก็มีปัญหามากพอสมควร เพราะเรายังมีรายได้ไม่มาก ถ้าให้มากไปทั้งหมดก็จะมีผลกระทบกับการพัฒนา แต่กระทรวงสาธารณสุขก็เร่งดำเนินการในส่วนต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงรัฐบาลนี้อนุมัติงบประมาณไปยังโรงพยาบาลต่างๆ จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โรงพยาบาลศูนย์ส่วนใหญ่ก็นำไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การจัดหาอุปกรณ์ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขาดความทันสมัย เพราะมีราคาแพง

สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ถ้าเราใช้จ่ายในเรื่องของคนมาก และ ยังไม่สามารถหาเงินได้มากพอรัฐบาลก็จะมีปัญหา ซึ่งวันนี้ตนเองดีใจที่เห็นตูนวิ่งมาได้เกินครึ่งทาง 1,288 กิโลเมตร ที่ผ่านมาก็มีเป็นห่วงตลอด โดยให้ทหารช่วยดูแลทั้งเรื่องเส้นทาง และ การรักษาความปลอดภัย พร้อมขอทำความเข้าใจกับประชาชน ที่อยากเข้ามาใกล้ชิดถ่ายรูปกับตูน แต่จะทำให้จังหวะการวิ่งมีปัญหา และ อาจเกิดอันตรายได้

✨สิ่งที่ทุกคนทำวันนี้ทำด้วยใจ อันเป็นกุศลทำให้คนอื่นมีความสุข แต่เราอาจจะทุกข์บ้าง เพราะอาจมีคนบ่นว่า ซึ่งถือเป็นความทุกข์ของเรา แต่เราก็ยึดมั่นและทุกอย่างก็จะสำเร็จ เหมือนนายกรัฐมนตรี ที่คิดว่าทำงานเพื่อคนอื่นไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเราก็ยอมรับอยู่แล้ว บ่นเสียดายหากอายุน้อยกว่านี้จะไปร่วมวิ่งกับตูนด้วย สมัยก่อนก็วิ่งอยู่ทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว เพราะอายุย่างเข้า 64 แล้ว

✨พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การตั้งความหวังในการวิ่งรวมทั้งระยะทางต่างๆ ถือเป็นการตั้งเอง หากมีอุปสรรคทางร่างกายก็ไม่มีใครว่าอะไร ขออย่าฝืน เพราะหากฝืนอาจทำไม่ได้ต่อไป “ผมอ่านข่าวว่ามีการวิ่งข้ามทะเลทราย 250 กิโลเมตร ว่าจะส่งตูนไปลงแข่งขันด้วย ถือเป็นการวิ่งระดับโลก   วันนี้วิ่งได้แล้ว1,288 กิโลเมตร คนอื่นน่าจะสู้ ตูนไม่ได้ ” พร้อมฝากให้"ก้อย รัชวิน"แฟนสาว คอยดูแลตูนด้วย และ ขอให้รักกันมากๆ

✨ขณะที่ตูน ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาส และ ให้เกียรติเข้าพบ พร้อมกล่าวว่าการวิ่งยังล่าช้ากว่ากำหนด 2 วัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และ ต้องพักตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งการเริ่มต้นโครงการถือเป็นความตั้งใจที่จะช่วยเหลือแพทย์และพยาบาล และ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนออกมาร่วมกันมากมายเช่นนี้ เราเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่พวกเราทั้งหมดอยากจะทำ โดยจะทำให้เต็มที่มากที่สุดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ และสุดท้ายมันจะเล็กหรือใหญ่ก็ให้เป็นเรื่องธรรมชาติ “ ผมดีใจมาก ในการวิ่งครั้งนี้ ตลอดเส้นทางเริ่มจากเบตงวิ่งขึ้นมา มีแต่รอยยิ้มของคนไทย และ เห็นความสุขของคนไทย เด็กบางคนนำกระปุกออมสินที่หยอดมาทั้งปีมาช่วย ผมว่ามันสวยงามและยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่เห็นผมเป็นแรงบันดาลใจ

✨สิ่งที่ได้มามันมากกว่าการช่วยเหลือโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพราะสามารถรวมจิตใจในการให้ของคนไทย ถือเป็นความงดงามที่หาไม่ได้ ขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสเข้าพบในครั้งนี้ ผมและทีมงานขอฝากนายกฯ กราบขอบคุณคนไทยทุกคนที่ออกมาช่วยกัน ซึ่งทั้งหมดได้ตั้งเป้าไว้ 700ล้านบาท

✨เดิมเราตั้งเป้าไว้ว่า เราอยากได้เงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนเยอะๆ มากกว่าจะได้เงินจำนวนเยอะๆ จากคนจำนวนน้อยนิดเดียว ตูน กล่าวต่อว่า ความจริงจะพักวันนี้เพียงวันเดียว แต่คณะแพทย์ขอร้องให้พัก 2 วัน

✨ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจแพทย์หญิงสมิตตา สังขะโพธิ์ หรือ หมอเมย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระราม 9 ที่ร่วมวิ่งในคณะ พร้อมสอบถามถึงการทำงาน โดยระบุว่า อย่าน้อยใจ การทำอะไรใหม่ๆ ดีๆ ปัญหาจะมีมาก มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่หมอเมย์ก็เป็นคนที่มีความตั้งใจอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อไปคนก็จะรักเราเอง มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย วันนี้ทำดีไม่ต้องทำเด่น และจะไม่เป็นภัย ทำแบบตูนและทีมงาน พร้อมกระเซ้าว่า ถ้าไม่มีงานทำจะฝากให้ทำงานที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ

✨จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้นำเงินส่วนตัวใส่ซองปิดผนึกโดยไม่เปิดเผยจำนวน รวมทั้งเงินบริจาคของทำเนียบรัฐบาล และ ของที่ระลึก มอบให้ตูน ครอบครัว และ ทีมงาน ก่อนจะเดินจูงมือออกมาส่งตูนด้วยตนเอง และ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า คนที่ทำเนียบรัฐบาลรอตูนมากว่าตนเองอีก โดยเฉพาะสาวๆ

🌟"ก้อย อย่าหึงนะ ซึ่ง ผม ก็ไม่ได้อิจฉาตูน ที่มีคนรักจำนวนมาก ใครอยากจะมา อยากจะรักได้เชิญ ขอเพียงอย่างเดียว อย่าเหยียบเท้าตูน"🌟

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น