พล.ต. พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษก กอ.รมน. ได้เปิดเผยว่า วันนี้(17 พ.ย.60)เวลา 10.00 น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ได้มีการประชุม หน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 8/2560 โดย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน โดยมีสาระสำคัญให้ทราบดังนี้
ตามแผนยุทธศาสตร์การพลิกฟื้นผืนป่า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลให้ กอ.รมน. กับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางยุทธศาสตร์และจัดทำแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อนให้มีพื้นที่ป่า 128 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศภายใน 10 ปีนั้น จากการดำเนินการในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ มิ.ย.57 ถึง ก.ย.60 สามารถตรวจยึดคืนผืนป่าได้ จำนวน 600,000 ไร่เศษ และตรวจพบว่ายังมีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่ต่างๆอยู่ตลอดเวลา
ซึ่ง เลขาธิการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ปฏิบัติตามนโยบายของ รอง ผอ.รมน. ที่ให้เข้มงวดกวดขันการป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกป่าในพื้นที่ ที่ได้ตรวจยึดโดยเฉพาะในพื้นที่ป่าต้นน้ำ รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลปกป้องผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์
ให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการสนับสนุนการปฎิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและติดตามการเชื่อมโยงปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ด้วยการบูรณาการเชื่อมโยงเครือข่ายและใช้ศักยภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิด( CCTV )ของภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนการติดกล้องวงจรปิดรถยนต์สาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล โดยให้ทุกหน่วยได้ตรวจสอบความสมบูรณ์และประสิทธิภาพของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ รวมไปถึงการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงวินัยทางสังคมและการดูแลความปลอดภัยในสังคมร่วมกัน
นอกจากนี้ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยได้ยึดถือนโยบายของ ผอ.รมน. ที่ให้การทำงานของ กอ.รมน. จะต้องเป็นการทำงานอย่างบูรณาการรอบด้าน เพื่อ ลดช่องว่าง ขจัดความซ้ำซ้อน และเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ด้วยการบูรณาการประสานงานกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด ก่อให้เกิดการทำงานอย่างมีศักยภาพร่วมกัน และให้ประสานงานกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวมถึงการพบปะกับพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้บรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น