วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2565

60​ ปี​ วันสถาปนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นักรบสีน้ำเงิน​

"จงรักภักดี ปฏิบัติตนดี ปฏิบัติงานดี เพื่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน" นโยบาย​ ผบ.ทหารสูงสุด
วันที่​ 10 เมษายน เป็นวันคล้ายวันสถาปนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา​(นทพ.)​ กองบัญชาการกองทัพไทย นทพ.ชื่อเดิมคือ กองอำนวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (กรป.กลาง) ก่อตั้งตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2505 ในสมัย ฯพณฯ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีความมุ่งหมายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลักของกองทัพและรัฐบาล ในการขจัดปัญหาความยากจน รวมทั้งขจัดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมอันเกิดจากลัทธิคอมมิวนิสต์
กรป.กลาง ปฏิบัติงานในพื้นที่อันตรายภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมิติด้านความมั่นคงได้เปลี่ยนไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จึงได้เปลี่ยนชื่อหน่วย เป็น "หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา" หรือ นทพ.เมื่อปี 2540 นทพ.ถือเป็นหน่วยงานหลักของกองทัพไทยที่สนับสนุนภารกิจการพัฒนาประเทศ เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส โดยดำเนินงานพัฒนาตาม 8 แผนงานหลัก คือ แผนงานสร้างเส้นทางคมนาคม แผนงานส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ แผนงานพัฒนาแหล่งน้ำ แผนงานพัฒนาชุมชนและสาธารณูปการ แผนงานการสาธารณสุข แผนงานการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม แผนงานการประชาสัมพันธ์และจิตวิทยา แผนงานสังคมสงเคราะห์และอื่นๆ
8 แผนงานดังกล่าว เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาตามแนวชายแดน หรือในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง เพื่อให้ประชาชนเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน มีความกินดีอยู่ดี มีภูมิคุ้มกันที่ดีนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพของชุมชนและสังคมต่อไป หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ยังได้ร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนของชาติตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ โดยยึดมั่นและดำรงการให้ความสำคัญสูงสุดในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สนับสนุนงานตามโครงการพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างเต็มขีดความสามารถ และขยายผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน
ปัจจุบัน​ พลเอก​ จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้แปลงนโยบายของ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาปฏิบัติภารกิจในความรับผิดชอบ โดย ดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการบริจาคโลหิต “2.8 ล้านมิลลิลิตร สู้โควิด นทพ.” ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
การพัฒนาคลองตาอูฐ และคลองลำผักชี ในเขตหลักสี่​ กรุงเทพมหานคร การพัฒนาคลองแม่ข่า จ.เชียงใหม่ โครงการจิตอาสา “กิ่งพันธุ์ ปันสุข” แจกจ่ายพันธ์ไม้ผล ไม้ประดับ ให้กับประชาชน ณ จุดบริการประชาชนในห้วงเทศกาลปีใหม่
และสงกรานต์ การจัดตลาดนัดโค ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน
การบรรเทาสาธารณภัย ทั้งในด้านการป้องกัน การลดผลกระทบ และการเตรียมความพร้อม ซึ่งประชาชนเกิดความเชื่อมั่น นทพ. ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุสาธารณภัยต่างๆ โครงการ 1 นพค. 1 ฟาร์ม 1 โรงเรียน 1 ชุมชน เพื่อเป็นการพัฒนาหน่วย พัฒนากำลังพล และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนรอบพื้นที่ตั้งของหน่วยให้สอดคล้องกับแผนงานหลักในการปฏิบัติงาน
โครงการครอบครัวเดียวกัน “1 ปีนี้ เราไม่อ้วน” เป็นกิจกรรมดูแลสุขภาพกำลังพล นทพ. ที่ต้องการให้กำลังพลมีสุขภาพร่างกายที่ดีพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน 

โครงการจัดทำแผนพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมล โดยร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน จังหวัดนนทบุรี และภาคีเครือข่าย โดยมีแผนการพัฒนา 4 แผน ได้แก่ แผนการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในลำคลอง, แผนการส่งเสริมและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม, แผนการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มีหน้าที่ประสานการปฏิบัติในภาพรวมด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงนิเวศน์, กิจกรรมสร้างกลุ่มอาชีพ, กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, กิจกรรมพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์, การประชาสัมพันธ์กิจกรรมปลูกจิตสำนึก และการมีส่วนร่วม
โครงการ “กาแฟศิลาเพชร” หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งได้เข้าไปพัฒนาพื้นที่ตำบลชายแดน ในหลายปีที่ผ่าน พบว่าประชาชนนิยมปลูกกาแฟในจังหวัดน่าน โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 ได้ริเริ่ม “โครงการฟาร์มตัวอย่าง” ด้วยการรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคากลางแล้วนำมาผลิตแปรรูปและจำหน่าย โดยใช้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ว่า “Silaphet Coffee” อาราบิก้า 100 % 


ในการก้าวสู่ ทศวรรษที่ ๗ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมที่จะปฏิบัติงานทั้งที่ได้รับมอบหมายและที่ได้ริเริ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการน้อมนำแนวทางพระราชทานพระราชปณิธาน 5 ประการ เป็นหลักในการดำเนินการด้วยความ เอาใจใส่ ทุ่มเท เสียสละ ทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันนำไปสู่ความสำเร็จลุล่วงในการปฏิบัติภารกิจพัฒนาประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เป็นการพัฒนาศักยภาพของคน ชุมชน และพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งอย่างจริงจังและยั่งยืน มีผลงานประจักษ์ชัด และนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบาย“Digital HQ” ของกองบัญชาการกองทัพไทย จะต้องมีการบริหารโครงการอย่างโปร่งใส เป็นธรรม มี “ธรรมาภิบาล” และ กำลังพลจะต้องยึดถือในแนวทาง ปฏิบัติตนดี ปฏิบัติงานดี ก็จะนำไปสู่การบริหารองค์กรที่ดี เพื่อการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด คือ “จงรักภักดี ปฏิบัติตนดี ปฏิบัติงานดี เพื่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน” 
 
#ข่าว ท.ทหารอดทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น