วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

พระราชทานเพลิงศพ สิบเอก เมธา เลิศศิริ


วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 16.00 น. ที่วัดโพธิ์สมภรณ์ พระอารามหลวง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ สิบเอก เมธา เลิศศิริ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงพลเรือนและเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมี พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก, พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, พลโท ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2, นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชจังหวัดอุดรธานี และพลตรี วินัย เจริญศิลป์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 พร้อมด้วย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ประชาชน และครอบครัวผู้วายชนม์มาร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัยท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก







ในการนี้ องคมนตรี ประธานในพิธี ได้มอบหมายรับสั่งพร้อมธงชาติ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ครวบครัว และผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว สิบเอก เมธา เลิศศิริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพระราชทานกำลังใจให้แก่ครอบครัว สิบเอก เมธา เลิศศิริ และทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้กับครอบครัว สิบเอก เมธา เลิศศิริ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และพระราชทานพวงมาลาหลวง พวงมาลาพระราชทาน พวงมาลาประทาน ของพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพ พระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และพระราชทานเพลิงศพ


สิบเอกเมธา เลิศศิริ หรือ แบงค์ เป็นบุตรของนายบุญมา เลิศศิริ และนางกรรณิกา ประโกทะสังฆ์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2540 ณ โรงพยาบาลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้องรวมจำนวน 2 คน คือ สิบเอกเมธา เลิศศิริ สัญชาติไทยผู้วายชนม์ และนายสเมว ค็อปแลนด์ สัญชาติอังกฤษ การศึกษา สิบเอกเมธา เลิศศิริ เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านลาดหอคำ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนบ้านหวยชัยงัว จังหวัดหนอคาย จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ได้ออกมาช่วยคุณตากับคุณยาย ซึ่งได้แก่ คุณตาอุดม และคุณยายประพันธ์ ประโกทะสังฆ์ ทำสวนยาง จนครบอายุเกณฑ์ทหารได้เข้าสมัครเป็นทหารกองประจำการซึ่งเจ้าตัวรักอาชีพการเป็นทหารมากจึงไม่เสี่ยงในการจับใบดำหรือใบแดง เพราะกลัวว่าจะไม่เป็นทหารตามที่ตนรัก ซึ่งได้เข้ารับการบรรจุเป็นกองประจำการที่กองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ในผลัดที่ 1 ประจำปี 2561
ขณะเข้าราชการเป็นทหารกองประจำการนั้น ได้ศึกษาต่อการศึกษานอกโรงเรียนจนจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่หน่วยจัดให้ ซึ่งในเดือนเมษายน 2563 จะจบการศึกษาและปลดประจำการ



ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 สิบเอกเมธา เลิศศิริ สมรสกับนางสาวสุนารี แก้วกิ่งคำ ในปี 2557 แต่มิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตร 1 คน คือ ด.ช.วราวุฒิ เลิศศิริ เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 ณ โรงพยาบาลท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย แต่ภายหลังได้เลิกรากับภรรยา ในส่วนบุตรคุณแม่ นางกรรณิการ์ ซึ่งอาศัยอยู่ ณ ต่างประเทศและ คุณตาคุณยาย ได้เลี้ยงดู


ประวัติการรับราชการ สิบเอกเมธา เลิศศิริ เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื้อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักเป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีนิสัยโอบอ้อมอารีรักหมู่คณะและรักพี่รักน้องรักผู้บังคับบัญชาเป็นผู้มีน้ำใจประเสริฐตลอดระยะเวลารับราชการ ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจแรงสติปัญญาทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สร้างคุณประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในด้านครอบครัวเป็นผู้นำครอบครัวเป็นคุณพ่อที่เปี่ยมด้วยความเมตตาให้กับบุตรทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่นมีความสุขยิ่ง






สิบเอกเมธา เลิศศิริ ได้ประสบเหตุการณ์ไม่คลาดคิดขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาการคลังอาวุธ ประจำกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ในเวลาประมาณ 15.40 นาที ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาปล้นปืนในคลังอาวุธดังกล่าว สิบเอกเมธา เลิศศิริ ได้สกัดยับยั้งผู้ก่อเหตุจึงทำให้ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าบริเวณซี่โครงด้านซ้ายทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ณ จุดเกิดเหตุ สุดความสามารถที่แพทย์จะช่วยยื้อชีวิตเอาไว้ได้ สุดท้ายสิบเอกเมธา เลิศศิริได้สิ้นลมในเวลา 16.36 น.สิริอายุได้ 22 ปี 3 เดือน การสูญเสียในครั้งนั้นเป็นการสูญเสียในขณะปฏิบัติหน้าที่ในยามปกติทางราชการจึงได้ปูนบำเหน็จให้ 3 ชั้นยศ 6 ขั้นเงินเดือน จากพลทหารเมธา เลิศศิริ เป็นสิบเอกเมธา เลิศศิริ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น